สำหรับในปี 2563 ถือว่าเป็นอีกปีหนึ่งที่เศรษฐกิจของประเทศไทยและทั้งโลกอยู่ในจุดที่ไม่ดีสักเท่าไร ซึ่งก็ทำให้คนที่อยากจะหาแหล่งลงทุนหรือที่เก็บเงินออมเงินที่ดีๆหน่อย มันก็ช่างจะหายากเสียเหลือเกิน เพราะว่าในปีนี้ดอกเบี้ยเงินฝากทั้งแบบออมทรัพย์และฝากประจำก็ถูกลดลงมาจนแทบจะไม่ได้ดอกเบี้ยอะไรอยู่แล้ว เสมือนว่าการฝากเงินไว้เก็บตังที่ธนาคารเท่านั้น ส่วนเรื่องการลงทุนกับหุ้นหรือกองทุนบางคนก็อาจจะไม่มีความรู้เพียงพอหรือไม่เตรียมต่อสภาพความผันผวน จนไม่อยากจะไปลงทุนกับสองอย่างนั้น แต่ว่าก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมตลอดมา แม้ว่าในปีนี้ทั้งดอกเบี้ยและเงินรางวัลจะถูกปรับลดลงมาก็ตามนั้นก็คือ สลากออมทรัพย์
โดยสลากออมทรัพย์ที่ผมจะมาพูดถึงกันว่าถ้าเรามีเงิน 100,000 บาท แล้วซื้อสลากตัวไหนที่มีผลตอบแทนดีกว่ากัน โดยจะมองเป็นผลตอบแทนรายปี ซึ่งจะเรียงจากมากไปน้อย ทำให้ผมได้ไปรวบรวมข้อมูลของสลากออมทรัพย์ชุดต่างๆ ที่มีขายอยู่ตอนนี้มาสรุปสั้นๆ ให้ได้ฟังกัน ไม่ว่าจะเป็นสลากออมสิน สลาก ธกส สลาก ธอส และสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งมีชุดต่างๆ ดังนี้
– สลากออมสินดิจิทัล 1 ปี
– สลากออมสิน 2 ปี/สลากออมสินดิจิทัล 2 ปี
– สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดเกษตรมั่งคั่ง 5
– สลากออมทรัพย์เกษตรยั่งยืน
– สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ (รุ่นที่ 3)
– สลากกินแบ่งรัฐบาล
ผมจึงขอสรุปผลตอบแทนต่อปีแบบคราวๆ ของสลากแต่ละชุดได้ดังนี้
– สลากออมสินดิจิทัล 1 ปี = 0.3% ต่อปี (แบบมีความน่าจะเป็น)
– สลากออมสิน 2 ปี/สลากออมสินดิจิทัล 2 ปี = 0.4% ต่อปี
– สลากออมสิน 2 ปี/สลากออมสินดิจิทัล 2 ปี = 0.46% ต่อปี (แบบมีความน่าจะเป็น)
– สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดเกษตรมั่งคั่ง 5 = 0.92% ต่อปี
– สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดเกษตรมั่งคั่ง 5 = 0.995% ต่อปี (แบบมีความน่าจะเป็น)
– สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. เกษตรยั่งยืน = 0.5% ต่อปี
– สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. เกษตรยั่งยืน = 1.12% ต่อปี (แบบมีความน่าจะเป็น)
– สลากออมทรัพย์ ธอส. รุ่นที่ 3 ชุดพิมานมาศ = 0.9% ต่อปี
ซึ่งทุกคนคงเห็นแล้วนะครับว่าสลากชุดไหนให้ผลตอบแทนเท่าไร ถ้าใช้เงิน 100,000 บาทไปซื้อมา ซึ่งผลตอบแทนก็ค่อนข้างจะแตกต่างกันอยู่พอสมควร ทำให้การตัดสินใจซื้อไม่ยากเลยใช่ไหมครับ ส่วนว่าถ้าใครมีข้อสังเกตหรือคำถามอะไรก็มาคอมเม้นต์ไว้ใต้คลิปนี้ได้เลยครับ ถ้าผมตอบได้ก็จะไปไล่ตอบให้นะครับ
